ทำประกันเพื่ออนาคต

จากการที่ประเทศไทยทุกวันนี้ ยังคงอยู่ภายใต้ของโรคระบาดที่ยิ่งนับวัน ก็ทวีความรุนแรงไปมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สถานการณ์แบบนี้จะคลี่คลายลงไป มาตรการรัฐต่างๆ ก็ออกมาคลุมเครือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาลหากมีการติดเชื้อหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ยังคงเป็นปัญหา ซึ่งคนที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้วนั้น ก็ยังพอที่จะอุ่นใจได้ แต่ถ้าใครไม่เคยซื้อประกันไว้เลย นั่นหมายถึงชีวิตค่อนข้างเสีย ดังนั้นเชื่อเหลือเกินว่า หากสถานการณ์นี้คลี่คลายลงเมื่อไหร่ อัตราการทำประกันชีวิตคงจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันนั้น ก็ควรศึกษาให้เหมาะกับตัวเรามากที่สุด เพราะการทำประกันนั้นมีอยู่หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น

การประกันแบบตลอดชีพ ซึ่งเป็นการทำประกันชีวิตที่เหมือนกับว่าทิ้งมรดกตกทอดให้กับลูกหลาน เพราะการประกันลักษณะนี้เป็นการทำประกันที่ระยะเวลาค่อนข้างยาว ตั้งแต่แปดสิบห้าปีขึ้นไปเลย จะได้เงินคืนก็ต่อเมื่อครบกำหนด หรือหากไม่ครบกำหนด คนรับผลประโยชน์ก็จะได้แทน

การประกันแบบสะสมทรัพย์ เป็นลักษณะการทำประกันชีวิตเหมือนเก็บเงินออมไว้ ที่บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินนี้คืนกลับมาเพื่อครบกำหนดสัญญา หรือมีเงินคืนให้ระหว่างสัญญา  หรือให้กับผู้รับผลประโยชน์เมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตไป

การประกันแบบชั่วระยะเวลา ซึ่งเป็นการประกันแบบระยะสั้นในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยหลักแล้วจะไม่ค่อยมีใครนิยม เพราะเหมือนเบี้ยสูญ ซึ่งต่อให้อยู่ครบสัญญาก็จะไม่ได้เงินคืน

การประกันแบบเงินได้ประจำ (บำนาญ) เป็นการประกันชีวิตที่เมื่อครบกำหนดสัญญา ทางประกันจะจ่ายเงินคืนกลับมาให้ทุกปีตามมูลค่าที่เอาประกัน เปรียบเสมือนเก็บเงินไว้ให้แล้วจ่ายดูแลกลับมาให้ทุกๆ ปี

การประกันแบบควบการลงทุน เป็นการประกันแบบให้ทั้งความคุ้มครองและลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งจะไม่มีการรับรองมูลค่ากรรมธรรม์ อิงตามมูลค่าหน่วยลงทุน ตามผลประกอบการ

ซึ่งจากที่ได้เห็นถึงผลประโยชน์ของการทำประกันแต่ละประเภทแล้วนั้น ความคุ้มครองอีกด้านหนึ่งที่เราควรจะต้องทำคือการประกันสุขภาพ ที่คุ้มครองการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ฯลฯ เพราะถือว่าเป็นการโอนความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลเสียกับค่ารักษาพยาบาลที่เราต้องเป็นคนชำระเองให้กับบริษัท ประกันชีวิต รับไปแทน ก็ถือว่าเป็นอีกประกันหนึ่งที่ควรจะทำเผื่อไว้ยามฉุกเฉิน

และอีกทางหนึ่งที่คนทำประกันจะได้ประโยชน์นั้น เรายังสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้ในการลดหย่อนภาษีบุคคคลธรรมดาได้อีก ในตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร ดังนั้นการทำประกันจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มนุษย์เราทุกคนควรจะมีไว้เพื่อหลักประกันในอนาคต ต่อตนเองและผู้อื่น

 

สนับสนุนโดย  คาสิโนสด