รัฐบาลเตะถ่วงไม่แก้ไขรัฐธรรมนนูญ

ซึ่งหลายคนคงจะถามว่าทำไมเราพูดถึงเรื่องรัฐบาลเราพูดถึงเรื่องนายประยุทธ์เราพูดเรื่องนายประวิตรเยอะแต่ไม่ค่อยพูดเรื่องภูมิใจไทยและประชาธิปัต

เพราะว่าเราลองเรียงลำดับความไปทั้งหมดแล้วตั้งแต่กลไกหรือองค์คาพยบที่พยายามจะบีบให้ สส. ในพรรครัฐบาลโหวตเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญแบบเตะถ่วงการแก้รัฐธรรมนูณในที่สุดแล้วไล่เรียงเส้นทางไปมันรวมศูนย์อยู่ที่มือไม้ของนายประยุทธ์ในวุฒิสมาชิกรวมทั้งมือไม้ของนายประวิตรในพรรคพลังประชารัฐ

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเห็นในเวลานี้การตัดสินใจในเวลานี้คือสัญญาณทางการเมืองว่านายประยุทธ์และนายประวิตรได้ตัดสินใจเส้นแนวทางของความสุดโต่งทางการเมืองไม่ยอมฟังเสียงของประชาชนเดินยุทธ์ศาสตร์ของการรวบอำนาจไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะทั้งสองคนนี้รู้ว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ

ซึ่งได้มาจากการจักตั้งของประชาชนเกิดขึ้นโอกาสที่คนทั้งสังคมจะไม่ยอมให้มีวุฒิสมาชิกนั้นรุนแรงมากรวมทั้งโอกาสที่สังคมจะแก้รัฐธรรมนูญตัดอำนาจวุฒิสมาชิกในการเลือกนายกนั้นมีความรุนแรงมากแปลว่า 250สว. ที่เป็นพรรคของนายประยุทธ์นั้นจะหายไปอย่างพริบตาอย่างที่มันจะควรหายไปนานแล้วเพราะนายประยุทธ์เพียงคนเดียวนั้นเลือก250สว. มาเลือกตัวเองเป็นนายก

โดยในเวลานี้เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เพียงสำคัญนักวิชาการหรือคนรักประชาธิปไตยแบบจ่านิวแบบเพนกวินแม้กระทั่งนักธุรกิจใหญ่คุณเศรษฐา ทวีสินผู้บริหารคนสำคัญของแสงศิริหนึ่งในนักธุรกิจที่คนนับถือมากที่สุดในประเทศไทยได้ออกมาโพสทวิตเตอร์ว่า “ ดูแบบนี้แล้วความเป็นธรรมมันคืออะไร “ เราไม่ค่อยเห็นนักธุรกิจออกมาวิจารณ์รัฐบาลแบบนี้ส่วนใหญ่นั้นนักธุรกิจชอบอวยรัฐบาลหวังว่าอวยรัฐบาลไปแล้วจะได้ทำมาหากิน

นอกจากนี้คุณเศรษฐา ทวีสินได้ออกมาโพสในทวิตเตอร์เลยแล้วได้มีคนแชร์กันทั้งบ้านเมืองว่า (นายประยุทธ์คนเดียวตั้งวุฒิสมาชิก250คนไปเลือกนายก ) ในขณะที่ประชาชน30ล้านคนเลือก สส. 500คนไปเลือกนายกแล้วความเป็นธรรมมันอยู่ที่ไหน

เนื่องจากนี้สิ่งที่คุณเศรษฐา ทวีสินพูดนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหม่แต่มันเป็นสัญลักษณะว่าในเวลานี้ความรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของกติกาปกครองประเทศมันไปถึงนักธุรกิจใหญ่ๆ

ซึ่งที่ผ่านมานั้นเขาไม่กล้าแสดงออกแล้วเราเชื่อว่าคุณเศรษฐา ทวีสินไม่ใช่คนสุดท้ายที่จะมาแสดงออกจะมีนักธูรกิจะมาแสดงออกแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะทุกคนเริ่มเห็นแล้วว่าถ้าหากบ้านเมืองยังคงเป็นแบบนี้อีกต่อไปเกิดการขัดแย้งเกิดการเผชิญหน้าโดยที่ไม่จำเป็นและสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือเครือข่ายนายประยุทธ์ในวุฒิสมาชิกจับมือกับเครือข่ายนายประวิตรในพรรคพลังประชารัฐในการวิ่งในการต่อสายในการเข้าหา สส. เพื่อขอให้ยอมรับการเตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  dewabet