หลายคนเคยตั้งคำถามว่าไทยแลนด์ 4.0 คืออะไรทำไมให้ความสำคัญอย่างมากและถูกพูดถึงในทุกๆองค์การมีการพูดถึงว่าในปัจจุบัน Thailand ยังติดอยู่ในระดับ 3.0 และที่สำคัญยังติดกับดับรายได้ปานกลางไม่ยอมขยับไปที่ไหนเรายังไม่รวยขึ้นและยังมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวก็คือ 2 แสนกว่าบาทต่อปีแล้วทำให้ประเทศไทยยังไม่ไปถึง 4.0 สักทีวันนี้เราจะมาเริ่มคุยกันที่ยุคเเรก 1.0 คืออะไร 1.0 คือยุคเริ่มต้นเราเริ่มทำการเกษตร
โดยพึ่งพิงทรัพยากรทางธรรมชาติเป็นหลักนั่นก็คือเราใช้ที่ดินทำมาหากินเพราะปลูกสิ่งต่างๆเช่นข้าวเป็นหลักและพืชผลการเกษตรเพื่อนำมารับประทานในครัวเรือนหรือมีการแจกจ่ายในชุมชนอีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนกับบริเวณโดยรอบทั้งนี้เราเน้นพัฒนาในส่วนการผลิตเป็นหลักณตอนนั้นเรายังไม่มีความรู้มากนักที่จะพัฒนาเครื่องจักรมาเบาแรงของชาวเกษตรกรจึงทำให้เราสามารถทำผลผลิตได้ไม่เท่าที่ควรได้ในยุคต่อมาประเทศไทย
เริ่มมีการศึกษามากยิ่งขึ้นส่งนักเรียนไปเรียนตามสถานที่ต่างๆและก็มีคนจบจากต่างประเทศจึงนำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศชาติให้เข้าสู่ 2.0 ในยุคนี้เป็นยุคที่เรียกว่ากำลังเจริญเติบโตของประเทศไทย อุตสาหกรรมเบาเราเริ่มมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศแลกเปลี่ยนทรัพยากรซึ่งกันและกันณตอนนี้เราใช้ทรัพยากรต่างๆ
เพื่อขยายผลการผลิตให้มากยิ่งขึ้นเรานำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้อย่างมหาศาลเพื่อการเจริญเติบโตของเราแต่ผลก็เป็นไปตามคาดประเทศเราเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมีอัตราเจริญเติบโตสูงสุดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของเราประเทศรอบข้างหรือว่าเรามีการเติบโตอย่างเร็วที่สุด การพัฒนานี้ทำให้ต่างประเทศมีการเริ่มมาลงทุนในประเทศส่งผลให้เริ่มมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเข้าสู่ยุค 3.0เริ่มเป็นยุคอุตสาหกรรมหนักเริ่มมีการลงทุนมากยิ่งขึ้นมีการส่งออกผลผลิตเป็นจำนวนมากหลายล้านตันต่อปีแต่ว่า 3.0
ไม่ใช่มีแต่ข้อดีเท่านั้นยังมีข้อเสียนั่นก็คือเราใช้ทรัพยากรเราเป็นจำนวนมากเพื่อทำการผลิตและเมื่อเราทำการผลิตมากทรัพยากรก็เริ่มหมดลงเราไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้และก็ที่สำคัญเราไม่สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้นั้นจึงทำให้เรายังติดกับดับรายได้ปานกลางอยู่รายได้เฉลี่ยประมาณ 200000 ต่อหัวต่อปีเป็นรายได้ที่ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ
หากเราอยากจะเพิ่มสิ่งนี้ขึ้นเราต้องไปให้ถึง 4.0 นี่คือสาเหตุที่มีการพูดถึงอย่างต่อเนื่องว่าทำไมเราควรจะขยับได้แล้วแต่สิ่งที่ขยับหน้าที่สุดคือการเพิ่มมูลค่าของสินค้าเพราะในปัจจุบันคู่แข่งทางการตลาดของเรามีเป็นจำนวนมากทำให้ความสามารถในการแข่งขันของเราลดน้อยลงต่อไปเราควรไปพัฒนาเรื่อง start up
หรือกิจกรรมต่างๆที่เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเราเป็นจำนวนมาก ในตอนนี้เราเรียกได้ว่าทำมากได้น้อยแต่หากเราจะก้าวข้ามไป 4.0 เราต้องทำน้อยให้ได้มากและก็คือสาเหตุที่มีการผลักดันจากทางรัฐบาลให้ประชากรมีความรู้ความสามารถเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งทางการตลาดของเราได้ต่อไปหากเรามีความสามารถมากพอเราถึงจะก้าวข้ามไปสู่ยุค 4.0
สนับสนุนโดย พนันออนไลน์ ฟรี