ธุรกิจการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง

ด้วยสภาวะประเทศไทยในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าตอนนี้ธุรกิจหลายธุรกิจต่างก็ทยอยปิดกิจการไป แต่ยังมีธุรกิจหนึ่งที่ยังคงอยู่ได้แม้ว่าประเทศไทยจะมีสภาวะแบบไหนก็ตาม นั่นก็คือธุรกิจการขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง

เมื่อเราขับรถไปทำงานหรือไปส่งลูกเข้าโรงเรียนในช่วงเวลาเช้าเช้า เราก็มักจะเห็นว่าตามริมทางถนน มักจะมีการมาตั้งแผงขายของซึ่งแผงที่เราเจอเยอะสุดในตอนเช้าก็คือ แผงขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง และเมื่อสอบถามกับคนขาย ก็มักจะได้คำตอบว่าธุรกิจนี้ไม่ต้องมีพื้นที่หน้าร้าน แค่มาขายตามริมถนนที่เป็นที่ของหลวง เราก็ไม่ต้องมาเสียค่าเช่าแล้ว

และการขายข้าวเหนียวหมูปิ้งก็เป็นเพียงอาชีพเสริมเท่านั้น เพราะเขามักจะขายหมดตั้งแต่ ยังไม่เก้าโมงเช้าเลยด้วยซ้ำ เมื่อขายของเสร็จพ่อค้าก็เก็บทำความสะอาดพื้นที่ตรงบริเวณที่ขายของเราวันต่อมาก็มาขายจุดเดิมต่อ ส่วนหลังจากเก็บร้านแล้ว เขาก็ยังสามารถไปทำงานประจำของตนเองได้อีก

ซึ่งถือว่านี่คือการสร้างกำไรได้สองทางสำหรับพ่อค้าคนนี้เลยที่เดียว โดยเขาแนะนำการขายข้าวเหนียวหมูปิ้งเอาไว้ว่า หากอยากทำธุรกิจนี้กอ่นอื่นเราต้องไปหาสูตรของหมูปิ้งว่ามีการหมักอย่างไรถึงจะอร่อย

หมูนุ่มเวลาปิ้งแล้วจะส่งกลิ่นหอม

และต้องไปหาซื้อข้าวเหนี่ยวที่มีราคาถูกแต่รสชาติอร่อย นึ่งออกมาแล้วไม่แข็ง รวมถึงหากอยากเพิ่งยอดการขาย เราควรทำน้ำจิ้มหมาล่า เพิ่มเผื่อกรณีที่ลูกค้าซื้อแล้วอยากได้น้ำจิ้ม หลังจากที่เรามีอุปกรณ์และวัตถุดิบที่จะขายของครบแล้ว เราต้องมาดูทำเล ซึ่งส่วนใหญ่ควรมาวางแผงขายริมถนน ที่มีคนผ่านไปมาเยอะเยอะ เช่น อาจจะอยู่ใกล้กับโรงงาน หรืออยู่ใกล้กับโรงเรียนได้จะยิ่งดีมากมาก

เพราะคนซื้อก็จะเยอะ และหากของกินของเราอร่อย สะอาดก็จะมีการพูดถึงกันปากต่อปาก หากมาวางขายวันแรก คนซื้ออาจจะน้อยก็ไม่ต้องไปถอดใจเพราะยังไม่มีคนรู้จัก ผ่านไปสักสามถึงสี่วันหากหมูปิ้งของเราอร่อยจริง รับรองลูกค้าแน่นร้านทุกวันแน่นอน ส่วนราคาขายไม่ต้องขายราคาแพงมากนักอาจจะขายไม้ละ 5 บาทหรือ 10 บาท

แต่เราก็ควรคำนวณราคากับต้นทุนแล้วว่าเราต้องได้กำไรต่อ1 ไม้ มากกว่า 50 % เพื่อที่จะได้คุ้มกับการขาย ซึ่งคนที่มาขายข้าวเหนียวหมูปิ้งส่วนใหญ่ขายดีกันทุกคน หากใครทีตอนนี้อาจจะตกงานก็ลองหันมาจับธุรกิจข้าวเหนียวหมูปิ้งดู