เป๊ปซี่ยืนยัน ในช่วงนี้มีกระแสข่าวลือต่างๆมากมายเกี่ยวกับเรื่องสินค้าที่มีการเตรียมที่จะมีการปรับราคาเนื่องจากว่าต้นทุนในการผลิตนั้นสูงขึ้นซึ่งสินค้าในปัจจุบันนี้มีการปรับขึ้นราคากันอย่างต่อเนื่อง
และทยอยปรับขึ้นราคากันเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าสำหรับในการบริโภคไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปาล์มหรือแม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ตาม
อย่างไรก็ตามกระแสข่าวลือนั้นยังมีการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของการปรับเพิ่มราคาของเครื่องดื่มประเภทเป๊ปซี่ว่าจะมีการปรับขึ้นราคาเช่นเดียวกับสินค้าชนิดอื่นๆซึ่งทางด้านกรมการค้าภายในก็ได้ออกมายืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทเป๊ปซี่
โดยทางผู้บริหารยืนยันว่าถึงแม้ว่าจะมีในเรื่องของต้นทุนที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ทางบริษัทเป๊ปซี่นั้นจะยังคงยึดมั่นในราคาเดิมอยู่และจะยังไม่มีการขึ้นราคาของเป๊ปซี่อย่างแน่นอน
เมื่อวันที่ 30 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 ทางด้านอธิบดีกรมการค้าภายในได้มีการออกมาเปิดเผยว่า จากข่าวที่มีการลือกันเกี่ยวกับบริษัทซันโทรี่เป๊ปซี่โคเบเวอเรจ ( ประเทศไทย) จำกัด
กำลังเตรียมตัวที่จะมีการประกาศปรับเพิ่มราคาของเครื่องดื่มยี่ห้อ Pepsi ซึ่งจะมีการปรับเพิ่มราคาทุกขนาด โดยราคาที่จะมีการปรับเพิ่มนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 บาทและกำหนดการในการเปลี่ยนแปลงราคาของบริษัทเป๊ปซี่นั้นจะเริ่มต้นอยู่ที่วันที่ 1 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ทางด้านกรมการค้าภายในจึงได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องของข่าวลือดังกล่าวซึ่งผลปรากฏว่าข่าวลือนั้นไม่มีมูลความจริงเนื่องจากว่าทางผู้บริหารของบริษัทเป๊ปซี่ได้ออกมายืนยันเป็นที่แน่นอนแล้ว
ว่ายังจะไม่มีการปรับเพิ่มราคาของเป๊ปซี่ไม่ว่าจะขนาดไหนก็ตามดังนั้นทางด้านอธิบดีกรมการค้าภายในจึงได้มีการออกมายืนยันอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบอย่างแน่นอนแล้ว
นอกจากนี้อธิบดีกรมการค้าภายในยังไม่ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจตลาดเพื่อดูแนวโน้มเกี่ยวกับเรื่องของราคาสินค้าว่ามีราคาสินค้าตัวไหนที่มีการปรับเพิ่มราคาสูงขึ้นบ้างและมีการปรับเพิ่มราคาสูงมากแค่ไหนรวมถึงให้มีการไปสำรวจร้านค้า หวยดี โดยเฉพาะร้านประเภทร้านชำว่ามีการกักตุนสินค้าหรือไม่
เนื่องจากว่าทุกครั้งที่มีข่าวลือว่าสินค้าชนิดใดจะมีการปรับราคาเพิ่มมากขึ้นและค่าส่วนใหญ่รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยนั้นก็มักจะมีการกักตุนสินค้าเพื่อเอาไว้ไปจำหน่ายในราคาที่แพงมากขึ้นนั่นเองซึ่งเรื่องนี้ทางด้านอธิบดีกรมการค้าภายในนั้นไม่อยากจะให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเพราะประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจึงต้องเร่งทำการตรวจสอบและดำเนินการจัดการกับร้านค้าที่มีการส่งสินค้านั่นเอง